วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 30

กล้วยหอมทอด

ส่วนผสม

  1. กล้วยหอมสุกผ่าครึ่ง 2 ผล
  2. แป้งสาลี 1 ถ้วย
  3. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  4. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำมันสลัด 3 ช้อนโต๊ะ
  6. ผงฟู 1 ช้อนชา
  7. น้ำมันพืช 2 ถ้วย
  8. น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย
วิธีทำ
  1. ตอกไข่ใส่ชามผสมก้นลึก ตามด้วยน้ำตาลทราย น้ำมันสลัด ผงฟู
  2. ตีส่วนผสมให้ละลายเข้ากัน ใส่แป้งสาลีลงไป
  3. ค่อยๆ เทน้ำเปล่าลงไป ตีแป้งให้ละลายกับน้ำ ระวังอย่าให้แป้งเหลวจนเกินไป
  4. นำกล้วยหอมลงชุบกับแป้ง ทอดในน้ำมันร้อนๆ พอสุกเหลือง
  5. ตักใส่จานเสิร์ฟร้อนๆ พร้อมน้ำตาลไอซิ่ง หรือ น้ำผึ้งและมะนาว

เชอรี่ชีสพาย

ในการทำส้มของแยกออกเป็น 3 ส่วนนะค่ะ คือ 1.  ตัวฐาน
 2.  การละลายเจลาติน
 3.  ไส้ครีมชีส

1.  ตัวฐานบิสกิต
 ส่วนผสม
  1.  ขนมปังกรอบรูป ABC (แต่ส้มใช้แบบธรรมดาซื้อที่เซเว่น)  200 กรัม
  2.  เนยสดละลาย(ในสูตร 70 กรัม แต่ลองแล้วฐานมันไม่เกาะเลยเพิ่มให้คะ)             120 กรัม
  3.  น้ำตาลไอซิ่ง       20 กรัม
วิธีทำ
1.  ก่อนอื่นต้องอุ่นเตาอบไว้ก่อนคะ ไฟล่างอย่างเดียวก็พอ ที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส
2.  บดขนมปังกรอบให้ละเอียดคะ ทำให้หมดขนมปังเลยนะจ๊ะ  จากนั้นพักไว้ก่อน ละลายเนยสดไว้คะ และเตรียมถาดพายไว้ด้วย วันนี้เราจะให้ถาดฟอล์ยขนาด 6 นิ้วกันคะ ซึ่งจะทำได้ประมาณ 2 ถาด
3. นำตัวขนมปังบดเมื่อสักครู่ ผสมกับน้ำตาลไอซิ่งคะ  จากนั้นค่อย ๆ ใส่เนยละลายลงไปคะ คลุกเคล้าให้เข้ากันนะจ๊ะ   ถ้าขนมปังแห้งไปให้เพิ่มเนยได้คะ
4. ลักษณะขนมปังที่ได้จะเหมือนทรายเปียกคะ ถ้าบีบจะจับกันเป็นก้อน   นำขนมปังที่ได้ มากรุใส่ถาดฟอล์ยเลยคะ โดยกรุให้ถึงขอบพิมพ์ด้วยนะจ๊ะ (ใช้หลังช้อนทานข้าวกดให้แน่น)
5. จากนั้นส้มใช้แก้วน้ำกดทับอีกครั้งคะ เพื่อให้แน่นยิ่งขึ้น นำเข้าอบไฟล่างอย่างเดียวคะ ประมาณ 10-15 นาที
6. อบสุกแล้วนำออกมาวางพักให้เย็นก่อนนะจ๊ะ จากนั้นปิดฝา (กันไม่ให้กลิ่นอาหารชนิดอื่นเข้า) แล้วนำไปแช่ตู้เย็นไว้เลย
ส่วนที่ 2  การละลายเจลาติน และ 3 การทำไส้ครีมชีสคะ
 ส่วนผสม  (ไส้ครีมชีส)
  1.  ครีมชีส       150 กรัม
  2.  นมข้นหวาน      150 กรัม
  3.  เนยสด       20 กรัม
  4.  น้ำมะนาว       2 ช้อนโต๊ะ
  5.  ผิวมะนาวขูดฝอย   (ส้มไม่ได้ใส่คะ)   ½ ช้อนชา
  6.  โยเกิร์ตรสธรรมชาติ     60 มิลลิลิตร
  7.  วิปปิ้งครีม       60 มิลลิลิตร
 ส่วนผสม (เจลาติน)  1.  เจลาตินผง       1 ช้อนชา
  2.  น้ำเปล่า       1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.  เทเจลาตินใสถ้วยไว้คะ จากนั้นเทน้ำเปล่าลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้าแห้งไปเติมน้ำได้อีกนะจ๊ะ)
2.  พักทิ้งไว้สักครู่ประมาณ 3-5 นาทีคะ  จะเห็นว่าเจลาตินดูดซับน้ำไว้จนหมด
3.  นำเข้าไมโครเวฟ  ใช้ความร้อนสูงสุด ประมาณ 5-10 วินาทีคะ พอให้เจลาตินละลาย
4. เสร็จแล้วพักไว้แค่พออุ่น ก่อนนำไปใช้คะ
มาทำไส้ครีมชีสกันต่อนะจ๊ะ
1.  ตีวิปปิ้งครีมคะ ตีจนตั้งยอดคะ (ความเร็วปานกลาง) ประมาณ 5 นาทีคะ จากนั้นพักไว้ในตู้เย็นไว้ก่อน
2. นำครีมชีส(ครีมชีสวางในอุณหภูมิห้องพออ่อนตัว) และเนยสดใส่ชาม จากนั้นตีด้วยความเร็วปานกลาง ให้เข้ากันคะ
3. 3 นาที แล้วปาดอ่าง 1 ครั้ง  จากนั้นตีต่อ 3 นาที แล้วปาดอ่างอีก 1 ครั้ง (ไม่งงนะจ๊ะ รวมแล้วคือตี 6 นาที) การปาดอ่างจะช่วยให้ส่วนผสมเนียนขึ้นและเข้ากันดีคะ
4. จากนั้นใส่นมข้นหวาน  น้ำมะนาวลงไปคะ เติมโยเกิร์ตรสธรรมชาติ ลงไปคะ (โยเกิร์ต 60 มิลลิลิตรก็ประมาณ ½ ถ้วย)
5.ตีส่วนผสมให้เข้ากันคะ (ความเร็วปานกลางประมาณ 3 นาที)
6. เติมเจลาตินที่อุ่น ๆ ลงไปในส่วนผสมคะ คนให้เข้ากันด้วยพายยาง (ถ้าเจลาตินเย็นและเริ่มแข็ง ให้นำไปอุ่นใหม่ในไมโครเวฟอีก 3-5 วินาที)จากนั้นเติมวิปปิ้งครีมลงไปคะ โดยนำวิปปิ้งครีมแบ่งเป็น 3 ส่วน
7. ใส่วิปปิ้งครีมส่วนที่ 1 ใส่ลงไปใสครีมชีส แล้วตะล่อมด้วยพายยางให้เข้ากันคะ (มะงงกันนะจ๊ะ) จากนั้นก็ใส่ส่วนที่ 2 ทำแบบเติมอีกครั้ง และก็ใส่ส่วนสุดท้าย
8.  คนจนส่วนผสมเข้ากันดีคะ ชิมรสได้นะจ๊ะ^^ อาหย่อยแล้วววว
9. มาประกอบร่างกันคะ  เอาตัวฐานบิสกิตออกจากตู้เย็นได้เลยตักครีมชีสที่ได้ใส่ลงไปในฐานบิสกิต ทั้ง 2 ถาดเลยคะ จากนั้นเกลี่ยครีมชีสให้ทั่ว
10.ปิดฝาฟอล์ย แล้วนำเข้าตู้เย็นก่อนซัก 3 ชั่วโมงให้ครีมเซ็ทตัวคะ ตักท๊อปปิ้งใส่เลยคะ วันนี้ส้มใช้ เรดเชอรี่ของ Wilderness คะ 2 ถาดก็ประมาณ ½ กระป๋อง
11.17.  จิง ๆมันก็ทานได้แล้วละจ๊ะ แต่ถ้าจะไม่ทานก่อนก็เอาฝาครอบไว้แล้วนำไปแช่ตู้เย็น หรือจะทำฝากใครก็ได้เลยนะจ๊ะ ขอบอกอร่อยมากคะ 

เค้กสตรอเบอรี่สด

ส่วนผสม

แป้งเค้กพัดโบก 100 กรัม
ผงฟู 1 ช้อนชา
ไข่แดง (เบอร์ 2) 5 ฟอง
น้ำตาลทราย ( 1 ) 70 กรัม
น้ำมันสลัด 30 กรัม
เนยสดละลาย 30 กรัม
นมสด 75 กรัม
เกลือ 1/2 ช้อนชา
กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา
ไข่ขาว (เบอร์ 2) 5 ฟอง
น้ำตาลทราย ( 2 ) 50 กรัม
สตรอเบอรี่สด 
เรดกลาเซ่

วิธีทำ
1. นำไข่แดงและน้ำตาลทราย (1) คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือจนน้ำตาลทรายละลาย จึงใส่น้ำมันสลัด, เนย, นมสด, เกลือ, กลิ่นวานิลลา คนให้เข้ากัน จึงใส่แป้งที่ร่อนรวมกับผงฟูแล้ว คนจนส่วนผสมเนียนพักไว้
2. นำไข่ขาวมาตีจนขึ้นฟองหยาบ แล้วค่อยๆ ใส่น้ำตาลทราย(2) ตีต่อจนตั้งยอดแข็ง
3. นำส่วนผสมของไข่ขาวมาใส่ในส่วนผสมของไข่แดงโดยใช้พายยางคนตะล่อมอย่างเบามือให้เข้าก
ัน เทใส่พิมพ์กลมขนาด 2 ปอนด์ จำนวน 2 พิมพ์ ที่ทาเนยขาวและรองกระดาษไขแล้ว
4. นำเข้าเตาอบไฟฟ้า FAGOR ที่โปรแกรมไฟบน-ไฟล่างที่อุณหภูมิ 180๐ C ประมาณ 20-25 นาที หรือจนสุก
5. เมื่อเค้กเย็นเลื่อยเนื้อเค้กเป็น 3 ชิ้น นำชิ้นที่ 1 วางแล้วปาดวิปปิ้งครีมให้ทั่ว วางเรียงสตรอเบอรี่ที่หั่นแล้ว นำเค้กชิ้นที่ 2 วางทับปาดวิปปิ้งครีมและเรียงสตรอเบอรี่ แล้วนำเค้กชิ้นที่ 3 วางทับปาดด้วยวิปปิ้งครีมให้ทั่วบนหน้าเค้กและรอบข้างเนื้อเค้ก และตกแต่งหน้าเค้กให้สวยงาม

หน้าวิปปิ้งครีม
วิปปิ้งครีม RICH‘S 450 กรัม
ช็อคโกแลตขาว Lindt 200 กรัม
เนยสด 40 กรัม
นมสด 80 กรัม
เหล้ารัม 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. แบ่งวิปปิ้งครีม 200 กรัม, ช็อคโกแลตขาว, เนยสด ใส่หม้อตั้งไฟอ่อนพอช็อคละลายหมดคนจนส่วนผสมเนียน ยกลงจากเตาทิ้งให้เย็น ใส่เหล้ารัม 
2. ตีวิปปิ้งครีมส่วนที่เหลือกับนมสดจนตั้งยอดอ่อน แล้วนำส่วนผสมข้อ 1 มาผสมคนตะล่อมให้เข้ากันจึงปิดฝาอ่างผสมนำเข้าตู้เย็นให้ส่วนผสมอยู่ตัว

วิปครีม

ส่วนผสมวิปครีมครีมสด 150 ซีซี
น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
กลิ่นวานิลาเล็กน้อย
วิธีทำ1. แช่ชามและที่ตีไข่ ถ้าเป็นไปได้ก็ใส่ช่องแช่แข็งไปเลย เพราะยิ่งเย็นมากเท่าไร ครีมก็จะแตกตัวเร็วขึ้นเท่านั้น
2. 
ใช้ชามก้นลึกและเล็กในการตี ตีให้เร็ว ปาดถ้วยเป็นครั้งคราว และอย่าตีนานเกินไป ให้ตีจนกว่าจะขึ้นยอดแข็ง เป็นอันได้วิปครีมอย่างที่คุณต้องการตามที่สูตรอาหารเรียกร้อง

อีกเล็กน้อยกับวิปครีม:
วิปครีมสำหรับหน้าไอศกรีม เครื่องดื่ม หรือสอดไส้พาสทรีนั้น ต้องตีให้ขึ้นตัวกว่าวิปครีมที่ใช้ในการปรุงกับส่วนผสมอื่น ๆ
และสำหรับคอขนมนมเนยที่ไม่ต้องการอ้วน สามารถใช้นมพาสเจอไรส์ได้ ซึ่งจะมีไขมันนมน้อยกว่าวิปปิ้งครีมที่มีไขมันนมเป็นส่วนประกอบอย่างน้อย ๆ ก็ 35% เข้าไปแล้ว แต่ก็ต้องออกแรงตีกันนานหน่อยกว่าจะขึ้นตัว และเช่นเดียวกันก็คือ ไม่ควรตีมากเกินไป เมื่อได้เนื้อวิปครีมที่ได้ที่แล้ว
หากต้องการเติมความหวานให้วิปครีม เติมน้ำตาลกรวด หรือน้ำตาลทรายลงไปสัก 2 ช้อนโต๊ะต่อครีม 1 ถ้วย ก่อนตี (เมื่อตีแล้ว จะได้วิปครีมจำนวน 2 ถ้วย)

มาร์ชเมโล ฟอนดอง

ขั้นตอนการทำฟอนดองไม่ยากอย่างที่เคยคิดแต่การตกแต่งทำเค้กนั้นต้องอาศัยฝีมือ การฝึกฝนเพื่อให้เกิดความชำนาญเค้กวาเลนไทน์ของแม่ปูที่เห็นเป็นเค้กก้อนแรกจากฟอนดองที่ทำเองยังต้องฝึกฝนฝีมืออีกมากมาย แต่เพื่อนๆก็มาให้กำลังใจกันล้นหลาม ต้องขอขอบคุณแต่ละกำลังใจมากๆนะคะแม่ปูก็ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนเช่นเดียวกันค่ะ

มาทำมาร์ชเมโล ฟอนดองกันค่ะ


มาร์ชเมโล ฟอนดอง

มาร์ชเมโล ๑๖ ออนซ์
น้ำตาลไอซิ่ง ๒ ปอนด์
น้ำเปล่า ๒-๕ ช้อนโต๊ะ
เนยขาว ((เอาไว้สำหรับทามือเพื่อนวดค่ะ))


ขั้นตอนการทำ


เทมาร์ชเมโลทั้งหมดลงในชามแก้ว เทน้ำใส่ลงไปประมาณ ๒ ช้อนโต๊ะ
          นำชามมาร์ชเมโลใส่ในไมโครเวฟ เวฟมาร์ชเมโล ๓0 วินาที
          มาร์ชเมโลจะละลายประมาณนี้ค่ะ ใช้ทัพพีคนให้ทั่ว
          แล้วนำเข้าไมโครเวฟต่ออีก ๓0 วินาทีแล้วก็ใช้ช้อนคนมาร์ทเมโลให้ละลายอีกครั้ง
          ถ้ามาร์ชเมโลละลายยังไม่หมด ให้เข้าเวฟอีกครั้งประมาณ ๑๕ วินาทีก็ได้ค่ะ แล้วก็คนๆจนมาร์ชเมโลละลายไม่เป็นก้อน
          เมื่อมาร์ชเมโลละลายดีแล้ว ก็จัดการค่อยๆใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไป
          คนส่วนผสมให้เข้ากัน แล้วเติมน้ำตาลไอซิ่งลงไปเรื่อยๆคนจนส่วนผสมหนืดจนไม่สามารถคนต่อได้ก็จัดการเทส่วนผสมลงบนโต๊ะ
          มาถึงขั้นตอนนี้ชักมั่ว ฮ่ะๆ เพราะว่าต้องใช้สองมือแต่แม่ปูต้องใช้มือเดียวไปก่อน เพราะต้องถ่ายรูปไปด้วย
          ใส่น้ำตาลไอซิ่งลงไปให้หมดเลยนะคะแล้วก็จัดการนวดๆ เอามือลูบเนยขาวไปด้วยเป็นระยะๆจะช่วยให้ไม่ติดมือ และส่วนผสมจะได้ไม่แห้งมากด้วยค่ะถ้าส่วนผสมแห้งมากเกินไปก็เติมน้ำทีละนิดระวังอย่าใส่น้ำมากเดี๋ยวจะแฉะเกินไปยุ่งอีกเนยขาวนี่ต้องต้องพอดีด้วยนะคะเวลาคลึงโปะเค้กจะได้ไม่แตกระแหง
          นวดให้เหมือนกับเรานวดแป้งทำขนมปังค่ะ
          ใกล้จะได้แล้วค่ะ จริงๆนวดไม่นานค่ะ ประมาณไม่ถึงสิบนาที
          เรียบร้อยนวดจนเนียน ส่วนผสมไม่แห้งเกินไป ไม่แฉะ
          ต้องนวดให้เนียนดีนะคะ ไม่งั้นเวลาคลึงแล้วอาจจะแตกได้

ต้องการผสมสี ก็หยดสีที่ชอบลงไป

          เมื่อนวดฟอนแดนท์เสร็จแล้ว จะหมักไว้ก่อนหนึ่งคืนก็ได้ค่ะ(จะดีกว่า)หรือจะใช้ทันทีก็ได้เช่นกัน ถ้ายังไม่ใช้ทันที ให้เก็บไว้ในตู้เย็นเวลาจะใช้อีก ก็นำไปเข้าไมโครเวฟ แต่ใช้เวลาเวฟทีละนิดเดียวนะคะประมาณ ๑0 วินาที แล้วจับๆส่วนผสมดูว่าพอจะนวดได้หรือยังถ้ายังแข็งอยู่ก็เวฟอีกที แต่ครั้งละ ห้าวินาที สิบวินาทีก็พอค่ะนานเกินไปเดี๋ยวจะละลายหมด จากนั้นก็นวดต่ออีกสักนิดก่อนจะคลึงเป็นแผ่นคลุมเพื่อใช้คลุมเค้กค่ะ

วุ้นนม

ส่วนผสมตัววุ้น

นมข้นหวาน 1 กระป๋อง
นมข้นจืด 2/3 ถ้วย
วุ้นผง 2 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/8 ช้อนชา
น้ำ 2 ถ้วย


วิธีทำตัววุ้น

1. ผสมนมข้นหวาน วุ้นผง น้ำ เกลือ คนเข้าด้วยกัน ตั้งไฟอ่อน เคี่ยวพอวุ้นละลาย ใส่นมข้นจืด ตั้งไฟต่ออีกครั้ง คนให้เข้ากัน
2. เทใส่พิมพ์รูปแบบตามชอบ โดยใส่ขนาด 3/4 ของพิมพ์


ส่วนผสมหน้าวุ้น


นมข้นหวาน 1 กระป๋อง
น้ำหวานสีต่างๆ 2 ถ้วย
นมข้นจืด 2/3 ถ้วย
วุ้นผง 2 1/2 ช้อนชา



วิธีทำหน้าวุ้น


1. ผสมน้ำหวาน นมข้นหวาน วุ้นผงเข้าด้วยกัน ตั้งไฟพอเดือด ใส่นมข้นจืด คนให้ทั่วจนวุ้นละลาย
2. หยอดทับวุ้นชั้นแรกขณะอุ่นๆ อย่างเบามือ หยอดให้เต็มพิมพ์ ก่อนหยอดสังเกตว่าวุ้นชั้นแรกเริ่มตึงตัว แต่ยังไม่แข็ง
3. ทิ้งไว้ให้แข็งตัว แซะออกจากพิมพ์

คัสตาร์ด

ส่วนผสม
ไข่แดงไข่ไก่คนพอเข้ากัน3     ฟอง
นมข้นจืด1  1/2     ถ้วย
น้ำตาลทราย1/3     ถ้วย
เกลือป่น1/4     ช้อนชา
วานิลา1/2     ช้อนชา
ส่วนผสมคาราเมล
น้ำตาลทราย1/3     ถ้วย
น้ำ2     ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.  ผสมไข่แดง นมข้นจืด น้ำตาล เกลือ วานิลา คนเข้าด้วยกัน กรองด้วยตะแกรงตาถี่
2.  คั่วน้ำตาลสำหรับทำคาราเมล พอเริ่มไหม้ใส่น้ำ ลดไฟ เคี่ยวพอเหนียวและมีสีน้ำตาลเข้ม เทใส่ถ้วยคัสตาร์ดขนาด 6 ออนซ์ กลอกให้ถั่วถ้วย ทำจนครบทุกถ้วย ทิ้งไว้ให้คาราเมลแข็งตัว
3.  เทคัสตาร์ดลงในถ้วยคาราเมลที่ทำไว้ในข้อ 2 ให้เกือบเต็มถ้วย
4.  เรียงถ้วยคัสตาร์ดลงในลังถึง อย่าปิดรูไอน้ำ ปิดฝา นึ่งโดยใช้ไฟอ่อนๆ นานประมาณ 30 นาที หรือจนสุก
5.  เอาออกจากเตา ทิ้งให้เย็น นำไปแช่ตู้เย็นก่อนรับประทาน

ปุหลน

เครื่องปรุงและส่วนผสม
ปูม้า1/2ถ้วยตวง
นมข้นจืด1ถ้วยตวง
หอมแดงซอยบางๆ1/4ถ้วยตวง
พริกชี้ฟ้าเขียว แดง เหลือง3เม็ด
เกลือป่น1/4ช้อนชา
น้ำตาลทราย2ช้อนโต๊ะ
น้ำมะขาม1ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ ปุหลน
1. นำนมข้นจืดใส่หม้อ ตั้งไฟพดเดือด ใส่เนื้อปู คนให้เข้ากัน
2. ใส่หอมแดง เกลือ น้ำตาลทราย น้ำมะขามเปียก ตั้งไฟให้เดือดสักครู่ ใส่พริกยกลง
3. เสิร์ฟกับผักสดต่าง ๆ เช่น มะเขือ แตงกวา ถั่วฝักยาว 

ปลาม้วน

เครื่องปรุงและส่วนผสม
เนื้อปลาตาเดียว500กรัม
เกลือป่น1/2ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว1ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย1ช้อนชา
พริกไทยป่น1ช้อนชา
แป้งสาลี3ช้อนโต๊ะ
แครอทหั่นฝอย2ถ้วยตวง
ขิงหั่นฝอย1/2ถ้วยตวง
ไข่ไก่ตีพอแตก3ฟอง
ซอสพริก1/3ถ้วยตวง

วิธีการทำ ปลาม้วน
1. แล่ปลาเป็นชิ้นบาง ๆ ขนาด 3 x 3 นิ้ว เคล้าเกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาล พริกไทยและแป้งสาลีลงให้ทั่ว พักไว้ 15 นาที
2. เรียงปลาแต่ละชิ้นไว้ วางแครอทและขิงบนชิ้นปลา ม้วนปลาเป็นท่อนกลม ใช้ไม้จิ้มฟันเสียบเพื่อตรึงไว้ไม่ให้คลายออก
3. นำปลาม้วนชุบไข่แล้วทอดในน้ำมันที่ร้อนจนสุกเหลือง ตักขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มหรือซอสพริก

มะละกอผัดหมู

เครื่องปรุงและส่วนผสม
เนื้อหมู200กรัม
มะละกอสับเป็นเส้น1.5ถ้วย
ไข่ไก่1-2ฟอง
น้ำปลา1ช้อนโต๊ะ
กระเทียมทุบ4กลีบ
น้ำมัน3ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ
มะละกอผัดหมู
1. ล้างเนื้อหมู หั่นชิ้นพอคำ
2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่กระเทียม พอหอม ใส่เนื้อหมู น้ำปลา
3. เนื้อหมูสุก ใส่มะละกอ ผัดให้สุกทั่ว ต่อยไข่ใส่ ผัดจนไข่สุก ตักใส่จาน
4. ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำมันหอย น้ำปลา ผัดพอหมูสุก อย่าผัดให้นานเพราะจะทำให้หมูแข็ง ไม่อร่อย

ลาบวุ้นเส้น

เครื่องปรุงและส่วนผสม
เนื้อหมูสับ หรือบด1ถ้วยตวง
วุ้นเส้น(อย่างเส้นเล็ก)1ถ้วยตวง
ข่าตำละเอียด4แว่น
ผักชีฝรั่งหั่นฝอย3ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมหั่นฝอย3ช้อนโต๊ะ
ข้าวคั่ว1 1/2ช้อนโต๊ะ
หัวหอมซอย3ช้อนโต๊ะ
พริกขี้หนูแห้งป่นละเอียด1ช้อนชา
น้ำมะนาว3-4ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา3ช้อนโต๊ะ
หัวปลีที่ลอกเอาตรงขาวผ่าแล้วแช่น้ำมะนาว1/4ถ้วยตวง
ใบสะระแหน่หั่นเป็นท่อน ๆ1ถ้วยตวง
ผักกาดขาว ถั่วฝักยาว ต้นหอม

วิธีการทำ ลาบวุ้นเส้น
1. เอาเนื้อหมูสับ คนในหม้อพอสุกตักขึ้น ถ้ามีน้ำเคี่ยวต่อไปให้แห้ง ตักใส่ลงในอ่างเคลือบ
2. ลวงวุ้นเส้นหั่นให้สั้น ๆ ใส่ลงในอ่าง นำข่าตำใส่ลงคลุกให้ทั่ว
3. ใส่ผักชีฝรั่งหั่น หัวปลีหั่น ข้าวคั่ว หัวหอม พริกขี้หนูแห้งป่น น้ำมะนาว น้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วชิมดู รสให้กลมกล่อม ใส่ต้นหอมหั่นตักใส่จานโรยใบสะระแหน่ รับประทานกับผักสด

ผัดเผ็ดลูกชิ้นหมู

เครื่องปรุงและส่วนผสม
ลูกชิ้นหมู30ลูก
ใบมะกรูด3ใบ
น้ำตาลทราย2ช้อนชา
น้ำปลา1ช้อนโต๊ะ
น้ำมัน1/4ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ ผัดเผ็ดลูกชิ้นหมู
1. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่เครื่องแกงลงผัด พอหอมใส่ลูกชิ้น
2. ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ผัดให้ทั่ว
3. ใส่ใบมะกรูดฉีก ปิดไฟ เสิร์ฟร้อน ๆ

ไก่ฮาวาย

เครื่องปรุงและส่วนผสม
เนื้อไก่หั่นสี่เหลี่ยม250กรัม
น้ำมะนาว1ช้อนชา
น้ำตาลทราย1ช้อนชา
เกลือ1/4ช้อนชา
พริกไทยป่น1/2ช้อนชา
กระเทียม1ช้อนโต๊ะ
เนยสด2ช้อนโต๊ะ
สับปะรดหั่นสี่เหลี่ยม1ถ้วยตวง

วิธีการทำ ไก่ฮาวาย
1. หมักไก่ น้ำมะนาว น้ำตาลทราย เกลือ พริกไทยป่น กระเทียม เนย ปะมาณ 1 ชั่วโมง
2. นำมาเสียบไม้กับสับปะรด
3. ย่างไฟอ่อน ระหว่างย่างทาเนยเล็กน้อย เพื่อจะได้ไม่แห้งเกินไป

ฮาวายเอี้ยนพอร์คชอพ

เครื่องปรุงและส่วนผสม
หมูเนื้อสัน400กรัม
เกลือป่น1ช้อนชา
พริกไทยป่น1/2ช้อนชา
น้ำมันพืช1/3ถ้วยตวง
น้ำสับประรด1/2ถ้วยตวง
น้ำซุป3/4ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย1ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว2ช้อนชา
แป้งสาลี1/4ถ้วยตวง
ซอสปรุงรส1ช้อนโต๊ะ
อบเชยป่น1/4ช้อนชา
แป้งข้าวโพด1ช้อนโต๊ะ
น้ำ2ช้อนโต๊ะ
สับปะรดหั่นชิ้นพองาม5-6ชิ้น
มะนาว1ผล
มะเขือเทศ2ผล

วิธีการทำ ฮาวายเอี้ยนพอร์คชอพ
1. เคล้าหมูกับเกลือและพริกไทยให้ทั่ว นำไปคลุกแป้ง พักไว้
2. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน นำหมูลงทอดจนสุกเป็นสีน้ำตาลทั้งสองด้าน
3. ตักน้ำมันออกครึ่งส่วน เติมน้ำสับปะรด และน้ำซุป ตั้งไฟให้เดือด ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำมะนาว และซอสปรุงรส ใช้ไฟอ่อนเคี่ยวต่อไปประมาณ 20-30 นาที
4. ใส่อบเชยลงไป คนให้เข้ากัน ละลายแป้งข้าวโพดใส่ในกระทะ คนให้เข้ากันจนน้ำข้น
5. จัดหมูใส่จานเสิร์ฟ ตกแต่งด้วยสับปะรด มะนาว และมะเขือเทศ

วันศุกร์, พฤษภาคม 10

น่องไก่ยัดไส้


เครื่องปรุงและส่วนผสม
น่องไก่6น่อง
วุ้นเส้นแห้งแช่น้ำให้นุ่มหั่นท่อนยาว 1/2 นิ้ว1/2ถ้วย
ผักชีหั่น1ช้อนโต๊ะ
เนื้อหมูสับ1 1/2ถ้วย
ไข่ไก่2ฟอง
แห้วหั่นชิ้นบาง1/2ถ้วย
กระเทียมสับละเอียด1ช้อนโต๊ะ
แป้งสาลีอเนกประสงค์1/2ถ้วย
เกลือป่น1ช้อนชา
เกล็ดขนมปัง1ถ้วย
ซีอิ๊วขาว1ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช3ถ้วย

วิธีการทำ 
1. ล้างน่องไก่ เอากระดูกออกโดยใช้มีดปลายแหลมเลาะจากโคนน่อง แล้วแซะเนื้อรอบ ๆ ให้หลุดจากกระดูก ใช้มือค่อน ๆ ดันเนื้อลงไปพร้อมกับใช้มีดแซะเนื้อไปเรื่อย ๆ แล้วหักกระดูกออก ทำจนหมด
2. คลุกเคล้าวุ้นเส้น ผักชี แห้ว ไข่ 1 ฟอง กระเทียม แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ หมูสับ เกลือ และซีอิ๊วขาว เข้าด้วยกันในอ่างผสม สำหรับเป็นไส้
3. ยัดส่วนผสมไส้ใส่ในน่องไก่ อย่าให้แน่นมาก ทำจนหมด
4. นึ่งน่องไก่ยัดไส้ในชั้นลังถึงบนหม้อน้ำเดือดด้วยไฟกลางนานประมาณ 15 นาทีจนสุก ยกลงเรียงบนตะแกรงพักให้เย็น ตั้งกระทะน้ำมันบนไฟกลางให้ร้อน คลุกน่องไก่ที่นึงกับแป้งสาลีที่เหลือให้ทั่ว ชุบไข่ที่เหลือ คลุกเกล็ดขนมปัง ใส่ลงทอดให้เหลืองทั่ว ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมันจัดใส่จาน ตกแต่งด้วยยอดโหระพา เสิร์ฟกับซอยพริก

วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 9

ซุปเยื่อไผ่ซี่โครงหมูตุ๋นยาจีน


เครื่องปรุงและส่วนผสม
ซี่โครงหมูอ่อน500กรัม
เยื่อไผ่ ล้างตัดเป็นท่อน1ถ้วย
เห็ดหอม1/2ถ้วย
เครื่องยาจีน สำหรับตุ๋นซี่โครงหมู1ห่อ
ซิอิ๊วขาว1/4ถ้วย
เกลือป่นเล็กน้อย
พริกไทยป่นเล็กน้อย
น้ำเปล่า1ลิตร

วิธีการทำ ซุปเยื่อไผ่ซี่โครงหมูตุ๋นยาจีน
1. สับซี่โครงหมูอ่อนเป็นท่อน ถ้ากลัวอ้วน ให้เฉือนเอามันออก ล้างน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง จนหมดน้ำเลือด ใส่กระชอนพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
2. นำน้ำเปล่าใส่หม้อตั้งบนเตา จนน้ำเดือด ใส่ซี่โครงหมูลงต้ม ใส่ครั้งแรกน้ำจะขุ่นค่ะ ไม่ต้องตกใจ คอยช้อนฟองออก รอจนน้ำเดือดปุดๆ ขึ้นมาอีกครั้ง ค่อยเบาไฟ หมั่นช้อนฟอง น้ำซุปจะค่อยๆใสขึ้นค่ะ ขั้นตอนนี้ต้องใจเย็นๆ ใช้เวลาหน่อย จะได้ซี่โครงหมูที่นุ่ม และน้ำซุปใสๆ
3. ระหว่างรอเคี่ยวซี่โครงหมู แช่เห็ดหอมแห้งในน้ำ พอเห็ดนุ่มบีบน้ำออก หั่นเป็นชิ้นพอคำ นำกระทะตั้งไฟ ใส่น้ำมันเล็กน้อย นำเห็ดหอมลงคั่ว ไฟอ่อน จนมีกลิ่นหอม ปรุงรสด้วยซิอิ๊วขาวเล็กน้อย ตักใส่ถ้วยพักไว้
4. แช่เยี่อไผ่จนพองตัวนิ่ม ล้างเอาสิ่งสกปรกออก (อาจต้องล้าง 2-3 น้ำ ถ้าเยื่อไผ่เลอะมาก) บีบสะเด็ดน้ำออก จากนั้นหั่นเป็นท่อนยาวประมาณ 1 1/2 นิ้ว (เวลาทำต้องเบามือหน่อยนะคะ ไม่งั้นเยื่อไผ่จะเละค่ะ
5. ล้างสิ่งสกปรกจากชุดเครื่องยาจีน พอน้ำซุปเริ่มใส่ ให้ใส่เครื่องยาจีนลงตุ๋น ปรุงรสด้วยซิอิ๊วขาว และเกลือป่น พอซี่โครงเริ่มนุ่ม ใส่เห็ดหอมลงไป ส่วนเยื่อไผ่จะใส่ทีหลังสุด เพราะถ้าตุ๋นนานเกินไปเดี๋ยวจะเละ
6. วิธีดูว่าซี่โครงหมูใช้ได้หรือยัง ให้ใช้ส้อมจิ้มซี่โครงดู ถ้ายังตัดเนื้อหมูไม่ขาดแสดงว่ายังเหนียวเกินไปค่ะ พอได้ที่ก็ชิมรส ปรุงเพิ่มตามชอบ ถ้ารู้สึกว่าเค็มเกินไปหรือน้ำแห้งเกินไปก็เติมน้ำได้ค่ะ

ผัดพริกขิงหมูกับถั่วฝักยาว


เครื่องปรุงและส่วนผสม
เนื้อหมู300กรัม
ถั่วฝักยาว200กรัม
น้ำตาลปีบ1ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา1ช้อนโต๊ะ
น้ำมัน2ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ
ผัดพริกขิงหมูกับถั่วฝักยาว
1. ล้างเนื้อหมู หั่นชิ้นเล็ก ๆ ยาว ๆ หมักกับน้ำปลา 1 ช้อนชา
2. ล้างถั่วฝักยาว ตัดเป็นท่อนยาว 1 นิ้ว ต้มพอสุกตักขึ้น
3. ใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ผัดเนื้อหมูพอสุก ตักขึ้นก่อนใส่เครื่องแกงลงผัดให้หอม ใส่เนื้อหมูลงผัดใหม่ ใส่น้ำตาล น้ำปลา ใส่ถั่วฝักยาว ผัดพอทั่ว ตักขึ้น

แกงเขียวหวานไก่


เครื่องปรุงและส่วนผสม
หัวกะทิ1ถ้วย
น้ำพริกแกงเขียวหวาน50กรัม
เนื้อไก่250กรัม
หางกะทิหรือน้ำสะอาด1ถ้วย
มะเขือเปราะ5ผล
มะเขือพวง1/4ถ้วยตวง
ใบมะกรูด4-5ใบ
พริกชี้ฟ้าสีแดง1/4ถ้วยตวง
ใบโหระพา1/4ถ้วยตวง
น้ำปลา2ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ1ช้อนโต๊ะ

วิธีการทำ แกงเขียวหวานไก่
1. เนื้อไก่ลอกเอาหนังออกหั่นเป็นชิ้นพอคำ (ถ้าอยากได้แกงไก่เนื้อนุ่มแนะนำให้ใช้เนื้อสะโพกไก่), มะเขือเปราะตัดจุก ผ่าเป็นชิ้นขนาดพอคำ ผลนึงแบ่งได้ 2 หรือ 4 ชิ้นขึ้นอยู่กับขนาด แช่ไว้ในน้ำเกลือ ส่วนผสมน้ำ 1 ลิตรต่อเกลือประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อกันไม่ให้มะเขือเปราะดำ เวลาใช้เทน้ำเกลือทิ้งไป ล้างเอาแต่มะเขือไปใช้นะคะ, มะเขือพวง เด็ดเป็นเม็ดล้างน้ำให้สะอาด, ใบมะกรูดฉีกเอาแต่ใบไม่เอาก้าน, พริกชี้ฟ้าแดงหั่นแฉลบ ถ้าชอบเผ็ดๆ ก็หั่นติดแกนเอาเมล็ดพริกลงไปด้วย ถ้าไม่ชอบเผ็ด ก็หั่นอย่าให้ติดเมล็ดพริกนะคะ, โหระพาเด็ดเอาแต่ใบ ล้างน้ำให้สะอาด
2. ตั้งกระทะบนเตา ใส่หัวกะทิลงเคี่ยวให้แตกมัน (แบ่งหัวกะทิใส่ถ้วยไว้สัก 3-4ช้อนโต๊ะ ไว้ใส่ตอนท้าย) จากนั้นใส่น้ำพริกแกงเขียวหวาน ลงไปผัดไฟกลางๆ จนมีกลิ่นหอม (ระวังไหม้นะคะ ถ้าดูจะแห้งเกินไป ตักหางกะทิใส่ลงไปเลี้ยงไม่ให้แห้งเกินไปค่ะ)
3. ระหว่างที่ผัดน้ำพริกแกงเขียวหวาน กับหัวกะทิอยู่ นำหางกะทิใส่หม้อ ตั้งไฟอ่อนๆ รอไว้ ให้ร้อน (หมั่นคน) ระวังอย่าให้น้ำหางกะทิเดือดนะคะ ร้อนแต่ไม่เดือดค่ะ
4. พอผัดน้ำพริกแกงหอมได้ที่แล้ว (สังเกตุได้จากอาการจาม กระแอม ของคนทำและผู้อยู่ใกล้เคียง) ใส่เนื้อไก่ลงไปเคล้ากับส่วนผสมของกะทิกับน้ำพริกแกงที่ผัดเตรียมไว้ ปรุงรสด้วยน้ำปลา เมื่อไก่เริ่มสุกตักส่วนผสมทั้งหมด ใส่ลงในหม้อหางกะทิ ที่ตั้งไฟรอไว้ คนให้เข้ากัน พอแกงเริ่มเดือด ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ ชิมรสและปรุงเพิ่มตามชอบ เน้นให้รสจัดไว้ก่อนนิดนึง เพราะพอใส่ผักลงไปแล้วรสจะอ่อนลง
5. เร่งไฟให้แกงเดือด ใส่ใบมะกรูด มะเขือพวง มะเขือเปราะ คนแกงให้มะเขือทั้งสองผสมจมลงในน้ำแกง ใส่พริกชี้ฟ้า ใบโหระพา ปิดฝาหม้อให้แกงเดือดอีกครั้ง (ขั้นตอนนี้ต้องเร็วนะคะ เพราะมะเขือเปราะถ้าโดนอากาศ มันจะดำไม่น่าทานค่ะ) จากนั้นปิดไฟที่เตา ใส่หัวกะทิที่แบ่งไว้ในตอนแรก เป็นอันเสร็จพิธี