วันอังคาร, มิถุนายน 18

หมูแดดเดียว

เครื่องปรุงและส่วนผสม
หมูเนื้อแดง500กรัม
กระทียม1หัว
รากผักชี3ราก
พริกไทยป่น1/2ช้อนชา
น้ำตาลทราย1ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา1ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย1ช้อนโต๊ะ
เหล้าขาว2ช้อนโต๊ะ
ซอสพริก3ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับทอด

วิธีการทำ หมูแดดเดียว
1. ล้างเนื้อหมูให้สะอาด แล่เป็นชิ้นหนา 1 ซม.
2. โขลกกระเทียม รากผักชี พริกไทยให้ละเอียด
3. เคล้าหมูกับน้ำปลา น้ำมันหอย เหล้าขาว น้ำตาลและเครื่องที่โขลกเข้าด้วยกัน หมักไว้ 1 ชั่วโมงแล้วตากแดด 1 วัน
4. นำหมูลงทอดในน้ำมันร้อน พอสุกตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน จัดใส่จาน เสิร์ฟกับซอสพริกหรือน้ำจิ้มตามชอบ

ข้าวอบกุนเชียง

เครื่องปรุงและส่วนผสม
กุนเชียง2แท่ง
เนื้อหมูส่วนสันใน100กรัม
กุ้งชีแฮ้200กรัม
ข้าวสาร2ถ้วย
กระเทียมสับ1 1/2ช้อนโต๊ะ
ขิงหั่นแว่นบาง1/4ถ้วย
น้ำมันพืช1/4ถ้วย
เห็ดหอมแห้งแช่น้ำให้นุ่มหั่นชิ้น3ดอก
น้ำมันหอย2ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว2ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมหั่นฝอย2ช้อนโต๊ะ
ต้นหอม4ต้น

วิธีการทำ ข้าวอบกุนเชียง
1. หั่นกุนเชียงและเนื้อหมูเป็นชิ้นพอคำ ล้างกุ้ง แกะเปลือก เด็ดหัวไว้หาง ผ่าหลังดึงเส้นดำออก ซาวข้าวสารใส่กระชอนให้สะเด็ดน้ำ
2. ผัดกระเทียมและขิงในกระทะน้ำมันด้วยไฟกลางให้มีกลิ่นหอม ใส่กุนเชียง เนื้อหมู และเนื้อกุ้ง ผัดพอสุก ใส่เห็ดหอม ผัดให้เข้ากัน ตามด้วยข้าวสาร ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว ผัดให้ทั่ว ตักใส่หม้อหุงข้าวไฟฟ้า
3. ผสมน้ำกับน้ำแช่เห็ดหอมให้ได้ประมาณ 3 ถ้วย เทใส่ลงในหม้อข้าว หุงจนข้าวสุก ตักข้าวใส่ถ้วย โรยต้นหอมหั่นฝอย รับประทานกับต้นหอม

วันศุกร์, มิถุนายน 14

ลูกพีชอบเนยน้ำผึ้ง

ลูกพีชอบเนยน้ำผึ้ง (Ember-Roast Peaches With Vanilla, Butter & Honey)
ช่วงหน้าร้อนของที่นี่ อุ้มจะเอนจอยและอร่อยกับการทานผลไม้สดมากๆ เลยค่ะ เพราะมีผลไม้ออกมาหลากหลายมากๆ  ซึ่งหนึ่งในผลไม้ที่อุ้มชอบมากก็คือ ลูกพีช   ปกติอุ้มจะชอบทานลูกพีชสด  แต่พอออกไปทานข้าวนอกบ้านแล้วได้ลองชิมพีชและแอพพริคอตอบแล้วติดใจตรงความหอมหวานอร่อยของเขา  อุ้มเลยคิดจะทำทานเอง ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่ยุ่งยากเลยค่ะ แป๊บเดียวก็ได้ทานลูกพีชอบอุ่นๆ อร่อยๆ กันแล้วค่ะ  ... ว่าแล้วเราไปลองทำด้วยกันเลยดีมั้ยเอ่ย?

sweet_peach1Difficulty Level : 2/5 spoons
Difficulty Level : 2/5 spoons

ส่วนผสม

ลูกพีชสุก ............... 2 ผล (ผ่าครึ่ง เอาเม็ดออก)
ฝักวานิลลา ............. 2 ฝัก (ผ่าครึ่งตามยาว)
เนยจืด ................. 10 กรัม (หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ)
น้ำผึ้ง ................... 1.5 ช้อนโต๊ะ
วิปปิ้งครีม หรือไอศครีมกลิ่นวานิลลา

Chocolate Pudding

ส่วนผสม

Half-and-Half  ................................................................... 200 ml
(นมสด 100 ml + ครีมสด 100 ml)
ครีมสด  ............................................................................. 240 ml
ดาร์คช็อคโกแลตสับ ( 70-77% Cacao)  ................................... 145 กรัม
น้ำตาลทราย ....................................................................... 80 กรัม
ไข่แดง  ............................................................................. 4 ฟอง
กลิ่นวานิลลา ....................................................................... 1/2 ช้อนชา
เกลือ  ............................................................................... 1 หยิบมือ

ส่วนผสมเพิ่มเติมตามชอบ (จะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)

วิปครีมสำหรับหยอดด้านหน้า
ผงโกโก้ขมสำหรับโรยหน้า
คุกกี้

วิธีทำ

  • นำช็อคโกแลตสับ ใส่ชาม (สำหรับเข้าไมโครเวฟ) นำช็อคโกแลตไปละลายในไมโครเวฟ อุณหภูมิไม่ต้องสูงมากนะคะ หมั่นเปิด และคนให้ชอคโกแลตละลายให้หมด
  • นำ half-and-half และครีมสด ใส่หม้อตั้งไฟปานกลาง พอครีมเริ่มร้อน แต่ยังไม่ถึงกับเดือด ปิดเตา พักไว้
  • เทส่วนผสมครีมสดและนม ลงในช็อคโกแลตที่ละลายไว้แล้ว  ใช้ตะกร้อมือตีจนส่วนผสมเข้ากันดี
  • ตีไข่และน้ำตาลทรายจนพอเข้ากัน ก็ค่อยๆ เทส่วนผสมนมและช็อคโกแลตลงไป ตีจนเข้ากันดี  เทส่วนผสมลงลงไปในหม้อ ตั้งไฟอ่อน หมั่นคนเสมอด้วยช้อนไม้ จนกระทั่งได้ส่วนผสมที่ข้น  (วิธีเช็คความข้นคือเมื่อยกช้อนไม้ขึ้นมาแล้ว ส่วนผสมที่หยดลงจะทิ้งร่องรอยสักพักนึง หรือส่วนผสมจะเคลือบหลังช้อนไม้ค่ะ)
  • ใช้กระชอนกรองส่วนผสมทั้งหมดลงในชาม เพื่อให้ได้เนื้อครีมที่เนียนนุ่ม
  • เติมเกลือและกลิ่นวานิลลา ผสมให้เข้ากัน
  • เทใส่ถ้วยหรือภาชนะที่เตรียมไว้ (อุ้มตักพุดดิ้งลงไปก่อนหน่อยนึง แล้ววางคุกกี้ลงไปด้านล่าง ก่อนจะเติมพุดดิ้งลงไปจนเต็มถ้วย เพราะที่บ้านอุ้มจะชอบกินพุดดิ้งแบบมีคุกกี้ด้วย  ใครอยากชิมสูตรเดียวกับบ้านอุ้มก็ลองดูนะคะ)
  • พักไว้ที่อุณหภูมิห้องจนเย็น (หรือจะใช้พลาสติกแรพปิดแนบไปกับด้านบนของเนื้อพุดดิ้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฟองอากาศบนผิวขนม แล้วค่อยนำไปแช่ตู้เย็น)  ปิดแก้วด้วยกระดาษฟอยล์  แล้วนำเข้าตู้เย็นอย่างน้อย 3 ชั่วโมง หรือจนกระทั่งพุดดิ้งเย็นและอยู่ตัวดีค่ะ

** สามารถเก็บพุดดิ้งใว้ในตู้เย็นได้ถึง 4 วันค่ะ

ก่อนจะทาน  ตีครีมสด โดยเติมน้ำตาลทรายลงไปนิดเดียวแค่ให้ออกรสหวานนิดๆ   ตีให้พอตั้งยอด แล้วนำวิปครีมที่ได้ไปบีบลงบนหน้าพุดดิ้ง  โรยด้วยผงโกโก้ขมนิดหน่อย  เท่านี้ช็อคโกแลตพุดดิ้ง สูตรหวานมัน เข้มข้น แสนอร่อย ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วค่า

วันพฤหัสบดี, มิถุนายน 13

Chocolate Cupcake

ส่วนผสมเนื้อเค้ก (ประมาณ 14-16 ถ้วย) ส่วนผสม Cream Chantilly
น้ำตาลทราย .....................
แป้งอเนกประสงค์ ...............
น้ำร้อน ............................
เนยจืด .............................
ผงโกโก้ ...........................
เบคกิ้งโซดา ......................
ไข่ไก่ฟองใหญ่ ...................
ผงฟู ................................
เกลือ ...............................
300 กรัม
182 กรัม
115 กรัม
113 กรัม
46 กรัม
5 กรัม
3 ฟอง
1/4 ช้อนชา
1/4 ช้อนชา
 วิปปิ้งครีม ............................
น้ำตาลไอซิ่ง ........................
กลิ่นวานิลลา ........................
200 กรัม
20 กรัม
1/2 ช้อนชา
** Cake recipe from "THE PERFECT FINISH- Special Dessert for Every Occasion"


ขั้นตอนการทำคัพเค้ก
  1. วางพิมพ์กระดาษลงในพิมพ์คัพเค้ก
  2. ร่อนแป้ง เบคกิ้งโซดา ผงฟู และเกลือ ในอ่างผสมหรือบนกระดาษไขแล้วพักไว้
  3. ค่อยๆ เติมผงโกโก้ทีละน้อย ลงในน้ำร้อนที่เตรียมไว้ ใช้ช้อนคนให้เข้ากัน เติมจนผงโกโก้หมดและคนจนส่วนผสม ไม่ให้เป็นเม็ด
  4. นำเนยมาใส่โถตีแล้วตีให้เป็นครีม  เติมน้ำตาลลงไป ใช้ความเร็วสูง ตีประมาณ 6-8 นาที จนได้ส่วนผสมที่ฟูเบา และเป็นสีอ่อนลง
  5. อุ่นเตาอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส
  6. เติมแป้งที่ร่อนไว้ครึ่งหนึ่ง ลงในส่วนผสมเนยที่ตีได้ที่แล้ว แล้วตีต่อด้วยความเร็วต่ำแค่พอเข้ากัน
  7. จากนั้น ใส่ไข่ลงไปทีละฟอง ใช้ความเร็วปานกลาง และตามด้วยส่วนผสมโกโก้
  8. สุดท้ายเติมแป้งที่เหลือลงไป ตีให้พอเข้ากันด้วยความเร็วต่ำ
  9. ใช้ที่ตักไอติม ตักส่วนผสมลงในถ้วยคัพเค้กที่เตรียมไว้ค่ะ  วิธีนี้จะทำให้เราได้ส่วนผสมที่เท่ากัน โดยไม่ต้องชั่งน้ำหนักทีละถ้วยค่ะ
  10. จากนั้นนำเข้าเตาอบ ประมาณ 23-25 นาที  เช็คความสุกโดยใช้ไม้จิ้มที่เนื้อเค้ก ถ้าไม่มีของเหลวออกมาเป็นอันว่าใช้ได้ค่ะ  นำออกมาพักบนตะแกรงให้คลายร้อนก่อนใส่ครีม


ขั้นตอนการทำครีม
นำวิปปิ้งครีม  น้ำตาลไอซิ่ง  และกลิ่นวานิลา  ใส่ลงในอ่างผสมตีให้ขึ้นฟูและครีมตั้งยอดแข็ง   ตักครีมใส่ถุงบีบ แล้วตกแต่งเค้กตามชอบ  หรือถ้าไม่มีถุงบีบก็ใช้ช้อนตักตกแต่งก็ได้ค่ะ
NOTE : สำหรับคัพเค้กสูตรนี้ใช้ครีมสด เมื่อบีบครีมลงบนขนมแล้ว ควรนำใส่ภาชนะปิดฝาให้สนิท ใส่ตู้เย็นก่อนถึงเวลาเสิร์ฟนะคะ  เก็บได้ไม่เกิน 3 วันค่ะ


About Cupcake
Cupcake มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศค่ะ อย่างที่อังกฤษจะเรียก Fairy cake หรือที่ออสเตรเลีย อาจเรียกว่า Patty cake ค่ะ
Party Cupcake การทำคัพเค้กเหมาะอย่างยิ่งเวลามีงานปาร์ตี้ค่ะ เพราะเราสามารถตกแต่งเค้กเล็กๆ พวกนี้ให้น่ารักได้เข้ากับธีมของงานนั้น แถมคนทานก็หยิบกันเพลินทีเดียวค่ะ ยิ่งถ้าได้ทานคู่กับชาร้อนสักแก้ว นอกจากจะเข้ากันได้ดีแล้ว ยังตัดความเลี่ยนได้อีกด้วยนะคะ 

Panna Cotta with Blueberry Compote

Panna Cotta

โยเกิร์ต ................................................................... 250 กรัม
Whipping cream ..................................................... 125 ml
น้ำตาลทราย ............................................................. 70 กรัม
แผ่นเจลาติน ............................................................ 4.5 กรัม (ใช้ชนิดแผ่นนำมาชั่งน้ำหนัก)
เกลือ ..................................................................... 1/8 ช้อนชา
ฝักวานิลลา .............................................................. 1/2 ฝัก
(ถ้าไม่มีฝักวานิลลา ให้แทนด้วย Vanilla extract  1/2 ช้อนชา)

วิธีทำ
  • แช่เจลาตินในน้ำผสมน้ำแข็งจนอ่อนตัวและนิ่ม
  • ต้มครีมกับเมล็ดวานิลลาที่กรีดออกจากฝัก เติมน้ำตาลทรายและเกลือ โดยน้ำขึ้นตั้งไฟอ่อนถึงกลาง หมั่นคนจนกระทั่งครีมเดือดเล็กน้อยและน้ำตาลละลายหมด
  • สะบัดน้ำออกจากเจลาติน และใส่ลงไปในครีมร้อน คนให้ละลายเข้ากันดี ยกลงจากเตา
  • ผสมโยเกิร์ตลงไป แล้วเทใส่ภาชนะ รอจนกระทั่งคลายร้อน จึงนำเข้าแช่เย็นในช่องธรรมดาอย่างน้อย 4 ชั่วโมง

Chocolate Pop Trio ช็อคโกแลตเสียบไม้ 3 สไตล์

ส่วนผสมช็อคโกแลตทั้ง 3 แบบ

    • ดาร์คช็อคโกแลตสับชิ้นเล็ก 100 กรัม / ขิงเคลือบน้ำตาลหั่นตามยาว / แครนเบอร์รี่แห้งหั่นชิ้นเล็ก / งาขาวคั่วพอหอม
    • มิลค์ช็อคโกแลตสับชิ้นเล็ก 100 กรัม / แอพริคอตแห้งหั่นตามยาว / อัลมอนด์คั่วหั่นเต๋า / ช็อคโกแลตชิพ
    • ไวท์ช็อคโกแลตสับชิ้นเล็ก 100 กรัม / แครนเบอร์รี่แห้งหั่นชิ้นเล็ก / อัลมอนด์คั่วหั่นแนวยาว
    • ไม้เสียบลูกชิ้น

วิธีทำ

นำช็อคโกแลตแต่ละชนิดใส่ชาม  นำไปละลายในไมโครเวฟทีละชนิด โดยนำไปเข้าเวฟที่อุณหภูมิ 800-1000 วัตต์ โดยอุ้มเอาเข้าเวฟ 4 ครั้ง ครั้งละ 20 วินาที  โดยแต่ละครั้งให้เปิดเตาไมโครเวฟ และใช้ช้อนคนให้ละลายเข้ากันค่ะ

Tips : พอช็อคโกแลตเริ่มละลายเกือบหมด แต่ยังเหลือเป็นชิ้นๆ อยู่บ้าง ก็ถือว่าโอเค ไม่ต้องเอาเข้าเวฟอีกนะคะ  แค่ใช้ช้อนคนให้ละลายต่อจนหมดก็พอค่ะ)

พอได้ช็อคโกแลตที่ละลายหมดได้ที่แล้ว ใช้ช้อนทานข้าวตักแล้วเทลงในกระดาษอบ  เกลี่ยให้เป็นวงกลม หรือจะทรงไหนก้อได้ตามชอบค่ะ   วางไม้เสียบลูกชิ้นลงไป  หยอดช็อคโกแลตเพิ่มอีกนิดหน่อยเพื่อปิดไม้เสียบลูกชิ้น และโรยผลไม้แห้ง งา  หรือช็อคโกแลตชิพลงไปเพื่อตกแต่งค่ะ

ปล่อยให้ช็อคโกแลตอยู่ตัวก่อนที่จะแกะออกมาจากกระดาษนะคะ   พออยู่ตัวอุ้มจะใช้ MT Tape พันรอบไม้เสียบลูกชิ้นเพื่อเพิ่มความน่ารัก  อุ้มทำได้อย่างละ 5 ไม้ค่ะ

Tips : อากาศร้อนๆ แบบนี้อาจทำให้ช็อคโกแลตเซ็ตตัวช้ามาก ให้เอาช็อคโกแลตที่หยอดเสร็จเรียบร้อยแล้ว นำไปแช่ในตู้เย็นสักแป๊บนึงเพื่อให้อยู่ตัวค่ะ)

เท่านี้เราก็ได้ช็อคโกแลตป๊อปเก็บไว้ทาน หรือจะนำไปเป็นของขวัญก็ยังได้  นอกจากจะอร่อยแล้วยังน่ารักด้วยค่ะ  โดยสามารถใช้ผลไม้แห้งชนิดอื่นๆ  หรืออะไรก็ได้ที่เราชอบมาโรยบนหน้าช็อคโกแลตได้ตามต้องการเลยค่ะ

Victoria Sandwich Cake

ส่วนผสมเนื้อเค้ก

แป้งเค้กชนิดแป้งสาลีชนิดพิเศษ .................................................... 175 กรัม
Creme Fraiche / Sour Cream / Plain Yogurt .......................... 175 กรัม
น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี ป่นละเอียด .................................................. 140 กรัม
เนยละลาย ............................................................................ 25 กรัม
อัลมอนด์ป่น .......................................................................... 25 กรัม
ไข่ไก่เบอร์ 1 ......................................................................... 2 ฟอง (ฟองละประมาณ 65 กรัม)
น้ำมันรำข้าว ........................................................................... 2 ช้อนโต๊ะ
ผงฟู ................................................................................... 2 1/2 ช้อนชา
Vanilla Extract ................................................................... 1 ช้อนชา
เกลือป่น .............................................................................. 1/4 ช้อนชา
แยมสตรอว์เบอร์รี่ หรือแยมรสอื่นตามชอบ
Whipped Cream
วิธีทำ
  • เตรียมพิมพ์มัฟฟินขนาดมาตรฐาน โดยทาเนยจืดให้ทั่วทุกหลุม
  • ร่อนส่วนผสมแห้ง ได้แก่ แป้ง ผงฟู  อัลมอนด์ป่น และน้ำตาล เข้าด้วยกันในชามผสม
  • ในชามผสมอีกใบ ตอกไข่ใส่แล้วตีพอให้แหลก ใส่เกลือ คนให้เกลือละลาย ใส่ครีมหรือโยเกิร์ต ตามแต่จะเลือกใช้ แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นตามด้วยเนยละลายและน้ำมันพืช
  • ทำหลุมตรงกลางชามแป้ง แล้วเทส่วนผสมของเหลวลงไป ใช้พายยางค่อยๆ ตะล่อมให้ส่วนผสมเข้ากันดี อย่าผสมนาน จะทำให้เค้กเหนียว
  • ใช้ช้อนตักใส่พิมพ์ แล้วนำเข้าอบประมาณ 15-17 นาที เช็คความสุกได้โดยการใช้ไม้จิ้มดู ถ้าไม่มีเศษเค้กเละๆ ติดขึ้นมาแสดงว่าสุกแล้ว และขนมจะส่งกลิ่นหอมด้วยค่ะ
  • พักไว้บนตะแกรงประมาณ 5 นาที แล้วยกออกจากพิมพ์

ส่วนผสม Whipped Cream

Whipped Cream ........................... 200 ml
น้ำตาลไอซิ่ง .................................... 1/2 ช้อนชา
Vanilla Extract .............................. 1/2 ช้อนชา
เกลือเล็กน้อย

วิธีทำ
นำวิปปิ้งครีมใส่อ่างผสม เติมน้ำตาลไปซิ่ง กลิ่นวานิลลา และเกลือลงไป ใช้ตะกร้อมือหรือที่ตีไฟฟ้าตีส่วนผสมให้ขึ้นฟู ตั้งยอดอ่อน พักไว้

ขั้นตอนการประกอบร่างขนม
แบ่งเค้กตามแนวนอนออกเป็น 2 ส่วน  ทาแยมลงบนชิ้นล่าง แล้วประกบเข้าด้วยกัน หรือจะทาแยมแล้วตักครีมที่เราตีเสร็จแล้วใส่ลงไป จากนั้นจึงประกบเข้าด้วยกัน



Sweet Tips
เมื่อเราลดปริมาณเนยละน้ำตาลลง จะทำให้เค้กขาดความชุ่มฉ่ำ  การใส่ครีม เช่น Creme Fraiche, Sour Cream หรือแม้กระทั่งโยเกิร์ตรสธรรมชาติ (ชนิด full fat) จะช่วยแก้ปัญหาเค้กแห้งได้ค่ะ

วันอาทิตย์, มิถุนายน 9

ขนมปังฟักทองธัญพืชสูตรเจ

แป้งโฮลวีท ........................... 70 กรัม
แป้งสาลีชนิดพิเศษ .................. 130 กรัม (เช่น บัวแดง หรือกิเลนเหลือง)
Wheat germ ....................... 20 กรัม
Pumpkin spice* .................. 3/4 ช้อนชา
ผงฟู .................................... 1 ช้อนชา
เบคกิ้งโซดา ........................... 1/4 ช้อนชา
เกลือทะเลป่น ......................... 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย ........................... 80 กรัม
น้ำมันรำข้าว ........................... 1/3 ถ้วยตวง (หรือน้ำมันพืชที่กลิ่นอ่อน)
น้ำผึ้ง ................................... 1/3 ถ้วยตวง
นมถั่วเหลือง ........................... 1/3 ถ้วยตวง
ฟักทองบดละเอียด .................... 1 1/4 ถ้วยตวง
Flax seeds (เมล็ดลินิน) ........... 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเปล่า ................................ 4 ช้อนโต๊ะ
Vanilla extract ..................... 1 ช้อนชา
วอลนัทอบสับหยาบ ................... 1 ถ้วยตวง

* Pumpkin spice = Cinnamon powder 1/2 ช้อนชา + Nutmeg 1/8 ช้อนชา + ขิงผง 1/8 ช้อนชา

Pumpkin Bread by Bake-aholic
วิธีทำฟักทองบด

1. อุ่นเตาอบที่ไฟ 200 C
2. สับฟักทองเป็นชิ้นใหญ่ ประมาณ 4-6 ชิ้นต่อลูก วางเรียงบนถาดอบที่มีขอบอย่างน้อย 2 ซม. เทน้ำร้อนใส่
3. นำเข้าอบประมาณ 1 ชั่วโมงจนนิ่ม แล้วนำออกมาพักไว้ให้คลายร้อน จากนั้นบดให้ละเอียดด้วยเครื่อง หรือบดผ่านกระชอน

วิธีทำขนมปัง
 
1. อุ่นเตาอบไว้ที่ 180 C และรองพิมพ์ด้วยกระดาษรองอบ ก้อยใช้พิมพ์ขนาด 4 x 10 x 3 นิ้ว (กว้าง x ยาว x สูง)
2. บด Flax seeds กับน้ำเปล่าให้ละเอียด พักไว้
3. ผสมส่วนของแห้ง (แป้ง 2 ชนิด  Wheat germ ผงฟู เบคกิ้งโซดา) เข้าด้วยกัน ใช้ตะกร้อมือคนให้เข้ากัน
4. ในชามผสมอีกใบ ละลายน้ำตาลและเกลือในนมถั่วเหลือง แล้วเทน้ำผึ่ง  Flax seeds บดละเอียด  ฟักทองบดละเอียด และวานิลลาลงไป คนให้เข้ากัน จากนั้นเทน้ำมันพืชลงไปผสม คนให้พอเข้ากัน
5. เทส่วนของเหลวลงไปในชามแป้ง แล้วคนพอเข้ากัน ตามด้วยวอลนัทสับหยาบ
6. เทส่วนผสมลงพิมพ์ ปาดหน้าให้ขอบสองข้างสูงกว่าตรงกลาง นำเข้าอบที่ไฟ 160 C ประมาณ 40 นาทีแล้วเปลี่ยนเป็นไฟ 180 C อีก 20 นาที แล้วเช็คสุกโดยการเอาไม้จิ้มฟันจิ้มดูแล้วไม่มีเศษแป้งเละๆ ติดออกมาก็แปลว่าสุกแล้ว
7" ยกออกมาวางพักบนตะแกรง ประมาณ  15 นาที แล้วจึงนำขนมออกจากพิมพ์แล้วทิ้งไว้ให้เย็นสนิท ประมาณ 1 ชั่วโมง

Madeleine Vanille

อุปกรณ์ :  พิมพ์มาเดอลีนสำหรับ 12 ชิ้น  ที่ร่อนแป้ง  อ่างผสม  ตะกร้อมือ  แปรงปัดเนย  ถุงบีบ  เตาอบ

ส่วนผสม

แป้งเค้ก ...................................... 75 กรัม
เนยละลาย .................................. 75 กรัม
น้ำตาลทรายละเอียด ..................... 75 กรัม
ไข่ ............................................ 75 กรัม
(ตีให้ไข่ขาวไข่แดงแตกผสมกันดี)
ผงฟู .......................................... 2 กรัม
กลิ่นวานิลา ................................. 1 กรัม
 
Madeleine Vanille by Sweet Me a daY
วิธีทำ
  • เริ่มจากร่อนแป้งกับผงฟูเข้าด้วยกัน พักไว้ก่อน
  • ใส่น้ำตาลลงในอ่างผสม เทไข่ลงไป ใช้ตะกร้อมือผสมให้เข้ากันดี
  • แต่ไม่ต้องตีให้ส่วนผสมมีฟองอากาศค่ะ (ไม่ต้องตีให้ไข่ฟูฟ่องเหมือนตอนทำเค้กนะคะ)
  • ใส่แป้งที่ร่อนไว้ลงไป
  • ผสมให้เข้ากันจนไม่เห็นเม็ดแป้ง
  • ค่อยๆ เทเนยละลายลงไปในส่วนผสม
  • คนส่วนผสมให้เข้ากันดี แล้วพักไว้ 10-15 นาทีนะคะ
  • ใช้แปรงปัดเนยละลาย (ส่วนนี้ไม่ได้รวมอยู่ในส่วนผสมข้างต้น) ปัดให้ทั่วพิมพ์ค่ะ
  • จากนั้นใส่แป้งลงในแต่ละหลุมแล้วเคาะออก ให้แป้งเกาะกับพิมพ์ เวลาอบเสร็จจะได้เอาออกง่ายๆ ค่ะ
  • เมื่อครบเวลาพักส่วนผสมแล้ว ตักส่วนผสมใส่ถุงบีบ แล้วค่อยตัดปลายก่อนบีบ
  • บีบส่วนผสมลงพิมพ์มาเดอลีน ประมาณ 8/10 ของพิมพ์
  • อุ่นเตาอบไว้ที่อุณหภูมิ 210 องศาเซลเซียส
  • เมื่อนำส่วนผสมที่พร้อมอบเข้าอบ ให้ลดอุณหภูมิลงเหลือ 200 องศาเซลเซียส และอบเป็นเวลา 8-10 นาทีค่ะ
  • ขนมอบเสร็จเก็บไว้ได้ 3 วันค่ะ

Sweet Tips : เวลาทำเนยละลายที่จะใช้ในมาเดอลีน ตามสูตรดั้งเดิมเค้าจะใช้ butter warmer หรือหม้อต้มเนยใบเล็กๆ อุ่นเนยให้ละลายจนแยกชั้น แล้วใช้แต่เนยชั้นบนใสๆ ที่แยกออกมาเท่านั้นค่ะ  แต่ที่จิ๊บลองทำก็ใช้เนยละลายธรรมดานะคะ  ขนมที่ได้ออกมาก็อร่อยหอมนุ่มเช่นกันค่ะ :)

ใครจะลองขูดผิวเลมอนลงไปในส่วนผสม (ให้พร้อมตอนใส่แป้งนะคะ) ก็หอมอร่อยได้อีกรสชาติค่ะ  ลองทำดูนะคะ

Apple Muffin

ส่วนผสม (สำหรับ 6 ชิ้น)

แป้งเค้ก ................................ 120 กรัม
น้ำตาลทรายสีรำ
 ...................... 70 กรัม
เนยสด
 .................................. 70 กรัม
นมสด*
 ................................. 70 กรัม
แอปเปิ้ลขนาดกลาง**
 .............. 1 ผล
ไข่ไก่ เบอร์#1
 ........................ 1 ฟอง
ผงฟู
 ..................................... 1 1/4 ช้อนชา
เกลือทะเลป่น
 ........................... 1/4 ช้อนชา
Vanilla Extract
 ................... 1/4 ช้อนชา
Caramel Toffee
 .................. 6 ชิ้น
น้ำตาลทรายสีรำผสมเกลือเล็กน้อย

* ถ้าชอบแบบนุ่มและฉ่ำมากๆ สามารถเพิ่มครีมสดได้ 1-2 ช้อนโต๊ะ
** วันนี้ก้อยเลือกใช้แอปเปิ้ลพันธุ์ Golden Delicious ค่ะ

วิธีทำ

  • หั่นแอปเปิ้ลเป็นชิ้นเล็กๆ จัดวางใส่บนจานใบใหญ่ แล้วปิดด้วยพลาสติก นำเข้าอบในไมโครเวฟ ประมาณ 3 นาที หรือจนกระทั่งแอปเปิ้ลนุ่มและใส เอาพักไว้ข้างๆ
  • ร่อนแป้งรวมกับผงฟูแล้วพักไว้
  • ตีเนยให้กระจายตัวใส่เกลือและน้ำตาลลงไป ตีจนกระทั่งฟู และสีอ่อนลง
  • ใส่ไข่ไก่ที่ตีพอแตกลงไป ตีให้เข้ากัน ส่วนผสมจะเหลวและดูแยกตัว ใส่วานิลลาลงไป ตีให้เข้ากัน
  • เปลี่ยนมาใช้พายยางผสม โดยแบ่งแป้งเป็น 3 ส่วน นมสด 2 ส่วน ใส่สลับกันโดยให้เริ่มที่การใส่แป้ง และจบที่การใส่แป้ง
  • ใส่แอปเปิ้ลที่อบไว้แล้วลงไป ตะล่อมให้เข้ากัน แบ่งใส่พิมพ์ 6 พิมพ์ และใส่คาราเมลท๊อฟฟี่ลงไป  โรยด้านบนด้วยน้ำตาลทรายผสมเกลือเล็กน้อย
  • นำเข้าอบประมาณ 30 นาที หรือสีขนมเหลืองสวย เอาไม้ปลายแหลมจิ้มดูแล้วไม่มีเศษของเหลวติดออกมา

Strawberry Tiramisu

ส่วนผสม (สำหรับ 6 ถ้วย)

สปันจ์เค้ก หรือ เลดี้ฟิงเกอร์
มาสคาร์โปเน่ครีมชีส  ................................................................... 250 กรัม
รีคอตตาชีส  ............................................................................. 250 กรัม
สตรอเบอร์รี่สด (หั่นเต๋าชิ้นใหญ่)  ..................................................... 150 กรัม
น้ำตาลไอซ์ซิ่ง  ......................................................................... 100 กรัม
น้ำตาลทราย ............................................................................. 30 กรัม
ไข่แดง  .................................................................................. 2 ฟอง
น้ำมะนาว ................................................................................ 1/2 ช้อนชา
ดาร์คช็อคโกแลตขูด (สำหรับแต่งด้านบน)

Strawberry Tiramisu by VanillaOrchidวิธีทำแยมสตรอเบอร์รี่
 
เอาสตรอเบอร์รี่ที่หั่นเตรียมไว้ใส่หม้อ  เติมน้ำตาลและน้ำมะนาว ผสมให้เข้ากัน แล้วตั้งไฟ หมั่นคนจนกระทั่งได้เนื้อแยมที่ไม่ข้นจนเกินไป

วิธีทำ Tiramisù cream
 
นำไข่แดงใส่ชาม และใส่น้ำตาลไอซ์ซิ่ง ใช้ตะกร้อมือ (สูตรเล็กๆ แบบนี้ ใช้ตะกร้อมือได้สบายเลยค่ะ) ตีจนส่วนผสมเข้ากันเป็นครีม  แล้วใส่ชีสทั้ง 2 ชนิดลงไป  ตีต่อสักพักจนได้ครีมที่เนื้อเนียน
Strawberry Tiramisu by VanillaOrchid
วิธีทำ Tiramisù
 
  • Strawberry Tiramisu by VanillaOrchid
    อุ้มทำใส่แก้วค่ะ โดยอุ้มตัดสปันจ์เค้กให้พอดีกับขนาดของแก้ว ใส่สปันจ์เค้กลงไป แล้วตักแยมสตรอเบอร์รี่ลงไป  เกลี่ยให้ทั่วสปันจ์เค้กค่ะ (ถ้าใช้เลดี้ฟิงเกอร์ ก็บิเป็นชิ้นๆ วางเรียงใส่แก้วค่ะ)
  • ใส่ครีมลงไป ใส่ครีมให้มากกว่าส่วนของแยมหน่อยนะคะ
  • ใส่สปันจ์เค้ก หรือเลดี้ฟิงเกอร์ลงไปอีกชั้น  ตามด้วยแยม และจบด้วยครีมค่ะ
  • แต่งหน้าด้วยดาร์คช็อคโกแลตขูด
  • ปิดด้านบนของแก้ว ด้วยกระดาษฟอยล์ หรือพลาสติกแรพ แล้วนำไปแช่ตู้เย็น อย่างน้อย 12 ชั่วโมง  แต่ขนม Tiramisù นี่ถ้าจะให้อร่อย ควรแช่ตู้เย็นค้างคืนไว้ค่ะ

**  ช็อคโกแลตที่จะนำมาขูดควรทิ้งให้อยู่ที่อุณหภูมิห้องค่ะ  แต่ถ้าอยู่ในห้องแอร์หรือบ้านอากาศเย็นมาก  ให้นำไปเข้าไมโครเวฟไฟอ่อนปานกลางก่อนนำมาขูด   จะช่วยให้ขูดได้ง่ายและเป็นลอนสวยน่าทานขึ้นค่ะ
Strawberry Tiramisu by VanillaOrchid   Strawberry Tiramisu by VanillaOrchid

Graham Crackers

ส่วนผสม

แป้งโฮลวีท  ............................................................................................................ 290 กรัม
แป้งสาลีเอนกประสงค์ ............................................................................................... 35 กรัม
เนยจืด (อุณหภูมิห้อง)  .............................................................................................. 114 กรัม
น้ำตาลทราย  ........................................................................................................... 80 กรัม
(ถ้าชอบหวานมากให้เพิ่มน้ำตาลลงไปอีก 20 กรัมตามสูตรเดิม  แต่ถ้าไม่ชอบหวาน 80 กรัมนี่กำลังดีเลยค่ะ)
แป้งข้าวโพด (แป้งข้าวโพดสีเหลือง cornmeal) ................................................................ 2 ช้อนโต๊ะ
โมลาส* (Molasses)  ................................................................................................ 2 ช้อนโต๊ะ
ครีมสด (ครีมที่เราเอามาตีเป็นวิปครีม) ............................................................................ 2 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่  .................................................................................................................... 1 ฟอง
ผงฟู  ...................................................................................................................... 1 ช้อนชา
อบเชยป่น  ............................................................................................................... 1 ช้อนชา
เกลือ  ..................................................................................................................... 1/4 ช้อนชา

วิธีทำ

  • ผสมแป้งโฮลวีท แป้งสาลีเอนกประสงค์ แป้งข้าวโพด ผงฟู อบเชยป่น และเกลือป่นเข้ากันพักไว้
  • ตีเนย น้ำตาลทราย โมลาส* เข้าด้วยกันจนกระทั่งได้ส่วนผสมที่ฟูเบา  ระหว่างที่ตีให้หยุดเครื่องเป็นครั้งคราว เพื่อปาดเนยจากก้นชาม  แล้วตีต่อเพื่อให้เข้ากันดี
  • ใส่ไข่ไก่ และครีม ตีต่อ แค่พอให้ส่วนผสมเข้ากัน
  • นำส่วนผสมแป้ง ใส่ลงไปในส่วนผสมเนยและไข่  ตีด้วยความเร็วต่ำ จนส่วนผสมเข้ากันเป็นโดว์
  • ใช้พลาสติกแรพโดว์ โดยใช้ฝ่ามือกดโดว์ให้แบน   แล้วนำไปแช่ตู้เย็นอย่างน้อย 30 นาที
    (ถ้ายังไม่ใช้ สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 3 วัน หรือเก็บไว้ในช่องฟรีซได้นานถึง 1 เดือน โดยก่อนจะใช้ เอามาวางในตู้เย็นช่องธรรมดาก่อน 1 คืน  และพอจะใช้ให้เอาออกมาวางที่อุณหภูมิห้องประมาณ 20 นาทีค่ะ)
  • วอร์มเตาอบที่อุณหภูมิ 175° C
  • นำโดว์ออกมาจากตู้เย็น และรีดโดว์บนโต๊ะที่โรยแป้งนวล รีดโดว์ไม่ให้หนามาก แล้วใช้พิมพ์กดคุกกี้กด หรือจะตัดเป็นทรงสี่เหลี่ยมก็ได้ค่ะ อย่างคราวนี้อุ้มตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 2x4 นิ้วค่ะ
  • วางโดว์ที่ตัดหรือกดเสร็จแล้วลงบนกระดาษอบ  วางให้ห่างกันประมาณ 1 นิ้ว แล้วนำไปอบประมาณ 15-20 นาที หรือจนกระทั่งขนมเป็นสีน้ำตาลทอง
  • อบเสร็จ นำมาผึ่งให้เย็นบนตะแกรง  เก็บไว้ในกล่องที่ปิดสนิท สามารถเก็บได้นานถึง 5 วันค่ะ